วัดเศวตฉัตรวรวิหาร
วัดเศวตฉัตร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร หน้าวัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก หลังวัดอยู่ริมถนนเจริญนคร แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร หมายเลขที่วัด 1401 “พระเจ้าอัยกาเธอ กรมหมื่นสุรินทรรักษ์” (พระองค์เจ้าฉัตร ต้นสกุล ฉัตรกุล) ทรงสร้างในระหว่าง พ.ศ. 2359 – 2373 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงปฏิสังขรณ์ และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามว่า “วัดเศวตฉัตร” เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ท่านผู้สร้างวัด
ประวัติความเป็นมา
วัดเศวตฉัตร วรวิหาร เดิมชื่อวัดบางลำภูล่าง เป็นวัดเก่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง แต่มีพระอุโบสถเก่าเป็นหลักฐาน พื้นที่ด้านหน้าวัดเป็นเนื้อที่งอกออกไปริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากการตื้นเขินของลำน้ำห่างจากจุดที่เป็นวัดเดิมมากเห็นได้จากที่ตั้งของพระอุโบสถเก่า(ปัจจุบันมีถนนเจริญนคร ตัดระหว่างวัดกับพระอุโบสถเก่า)
ในสมัยรัชกาลที่ 2 “พระเจ้าอัยกาเธอ กรมหมื่นสุรินทรรักษ์” จึงได้ทรงยกวัดออกไปสร้างใหม่ ดังปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้ โดยโปรดให้รื้อพระตำหนักของพระองค์ไปสร้างเป็นกุฏิหลังใหม่ 5 ห้อง (คือกุฏิเจ้าอาวาสปัจจุบัน) สร้างพระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ และพระปรางค์ เป็นต้น ในปลายรัชกาลที่ 2 และต้นรัชกาลที่ 3 ต่อกัน ภายหลังถวายเป็นพระอารามหลวง ดังปรากฏในจดหมายเหตุรัชกาลที่ 3 ตอนที่ว่าด้วยการปฏิสังขรณ์ และสร้างพระอาราม พ.ศ. 2393 ว่า “วัดเจ้าและวัดขุนนางสร้างถวายเป็นวัดหลวงก็มี ไม่ได้ถวายก็มี กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ สร้างวัดหนึ่ง ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานชื่อว่า วัดเศวตฉัตร ที่ถวายเป็นพระอารามหลวงก็พระราชทานเงินช่วย”
พระเจ้าอัยกาเธอ กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ พระนามเดิม พระองค์เจ้าฉัตร เป็นพระราชโอรสที่ 29 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เป็นที่ 2 ในเจ้าจอมมารดาตานี ทรงผนวช ปรากฏตามหนังสือพระราชวิจารณ์รัชกาลที่ 5 ว่า ทรงผนวชเป็นหางนาคกรมพระราชวังหลัง ณ วัดพระศรีสรรเพชญ (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) กรมพระราชวังหลัง จะเสด็จอยู่วัดใดไม่ได้กล่าว ส่วนพระองค์เจ้าวาสุกรี พระองค์เจ้าฉัตรนั้น มีหมายสั่งให้จัดขุนหมื่นพันทนาย ตำรวจนอก ตำรวจสนม สนมพลเรือน ชาวที่ หมอโรง ไปอยู่ประจำแห่งหนึ่ง ให้มีตำรวจนอกซ้าย 2 ขวา 2 ตำรวจสนมซ้าย 2 ขวา 2 สนมพลเรือน 1 ชาวที่ 1 หมอ 1 พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าวาสุกรี อยู่วัดพระเชตุพน พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าฉัตร อยู่วัดระฆัง ทรงตั้งกรม ณ วันศุกร์ แรม 6 ค่ำ เดือน 10 ปีมะเส็ง เอกศก จุลศักราช 1171 พ.ศ. 2359 เป็นปีที่ 1 ในรัชกาลที่ 2 ทรงตั้งพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าฉัตร เป็นกรมหมื่น สุรินทรรักษ์ ต้นสกุล ฉัตรกุล เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2372 ในรัชกาลที่ 3 สิ้นพระชนม์ ปรากฏตามหนังสือพระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 เล่ม 1 ของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ว่า “พ.ศ. 2373 จุลศักราช 1192 ปีขาล โทศก เป็นปีที่ 7 ในรัชกาลที่ 3 กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ประชวรพระโรคเถาดาน ประมาณปี 1 สิ้นพระชนม์ในวันอังคาร เดือน 6 ขึ้น 6 ค่ำ พระชนมายุได้ 39 พรรษา กับ 3 เดือน (ตรงกับวันที่ 27 เมษายน) งานพระเมรุ วันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือน 3 ปีขาล วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2373 ปีที่ 7 ในรัชกาลที่ 3 พระราชทานเพลิง วันพุธ แรม 4 ค่ำ เดือน 4 ปีขาล วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2373
สถานะและที่ตั้ง
วัดเศวตฉัตร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ 1410 ถนนเจริญนคร แขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 13 ไร่ 32 ตารางวา
สิ่งสำคัญภายในวัด
- พระอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนลักษณะแบบศิลปะจีนพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 หลังคาลด 2 ชั้น มุงกระเบื้อง หน้าบันตอนบนประดับลายปูนปั้นรูปดอกไม้ ตอนล่างเป็นกระเบื้องเคลือบรูปสัตว์ต่างๆ ภูเขา ต้นไม้ และดอกไม้แบบจีน ซุ้มประตูหน้าต่างประดับลายปูนปั้นดอกไม้ประกอบแถบผ้า ติดกระจกสี บานประตูและหน้าต่างด้านนอกเขียนลายรดน้ำรูปฉัตร 5 ชั้น และรูปพุ่มข้าวบิณฑ์ ผนังภายในเขียนเป็นลายดอกไม้ร่วง
- พระอุโบสถเก่า เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนรูปทรงแบบสมัยอยุธยา เป็นพระอุโบสถขนาดเล็กหลังคาลด 2 ชั้น มุงกระเบื้อง ประดับช่อฟ้า ใบระกา มีเพิง (พาไล) ยื่นออกมาด้านหน้า หน้าบันเจาะเป็นซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปยืนรวม 3 ช่อง
- พระประธาน พระพุทธรูปปางสมาธิ พระนามว่า “พระพุทธสมาธิคุณสุนทรสมาทานบุราณสุคต ” (หลวงพ่อโบสถ์บน) หน้าตักกว้าง 2.30 ม. ไหล่กว้าง 1.35 ม. จากพื้นพระอุโบสถถึงทับเกษตร 1.84 ม. จากทับเกษตรถึงพระเศียรสูง 3.40 ม. ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถเก่า เล่ากันว่าเป็นพระสานด้วยไม้ไผ่ แล้วปั้นด้วยปูน สร้างกันมาเก่าแก่คู่กับวัด ไม่ทราบว่าใครสร้างและสร้างสมัยไหนเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ กล่าวว่าเป็นพระสานด้วยไม้ไผ่แล้วปั้นด้วยปูน สร้างคู่มากับวัดแต่โบราณ
- พระพุทธรูปพระนาคปรก พระนามว่า “พระพุทธอังคีรสมุนีนารถอุรคอาสน์อำไพ” หน้าตักกว้าง 1.50 ม. ไหล่กว้าง 0.95 ม. จากพื้นพระอุโบสถถึงทับเกษตรสูง 2.28 ม. จากทับเกษตรถึงพระเศียรสูง 1.72 ม. ประดิษฐานอยู่บนขนดพระยานาค 4 ชั้น พระยานาคแผ่พังพาน เศียรปกอยู่บนพระเศียรภายใต้ต้นจิก ในพระอุโบสถใหม่ เป็นพระหล่อพระพุทธรูปปางนาคปรกนี้ หมายถึงพระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ๆ เสด็จออกจากร่มอชปาลนิโครธ ไปยังไม้จิก ซึ่งได้นามว่า มุจจลินท์ อันตั้งอยู่ในทิศอาคเนย์แห่งพระมหาโพธิ ในสัปดาห์ที่ 3 ทรงนั่งเสวยวิมุติสุขอยู่ 7 วัน เวลานั้น ฝนตกพรำเจือด้วยลมหนาว พระยานาคชื่อ มุจจลินท์ เข้ามาวงด้วยขนด 7 รอบ และแผ่พังพานปกพระเศียรพระพุทธเจ้า เพื่อจะป้องกันฝนและลมมิให้ถูกพระวรกาย สำหรับฐานชุกชีเบื้องหลังพระประธาน บรรจุอัฐิผู้สืบสกุลของพระองค์เจ้าฉัตร คือ ด้านซ้ายจารึกว่า “ จอมพล เจ้าพระยาบดินทร์เดชานุชิต” (หม่อมราชวงศ์ อรุณ ฉัตรกุล) ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ เกิด พ.ศ. 2399 อสัญกรรม พ.ศ. 2465 โดยคุณวรันดับ ฉัตรกุล บุตรี พลตรีพระยาสุรวงศ์วิวัฒน์ สร้างฉลองพระคุณเจ้าคุณตา ด้านขวาจารึกว่า “ฉัตรกุล สายหม่อมเจ้ากลาง”
- พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระนามว่า “พระพุทธมารวิชัยอภัยปรปักษ์อัครวิบูล” หน้าตักกว้าง 2.50 ม. ไหล่กว้าง 1.42 ม. จากพื้นพระวิหารถึงทับเกษตร สูง 3.56 ม. จากทับเกษตรถึงพระเศียร สูง 3.00 ม. ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารเป็นพระหล่อโลหะ พระประธานในพระอุโบสถใหม่และพระวิหารทั้ง 2 องค์นี้ ผู้เชี่ยวชาญทางโบราณคดีแห่งกรมศิลปากร ได้พิจารณาแล้วว่า มีลักษณะเป็นพระสุโขทัยแท้ แม้แต่จะได้มีการลงรักปิดทองแล้ว ก็ยังมีลักษณะเป็นพระสุโขทัยปรากฎอยู่ เช่น พระหัตถ์ พระบาท วงพระหัตถ์ และพระรัศมีเป็นต้น น่าสันนิษฐานว่าจะได้จากของหลวงที่เหลือจากสร้างวัดพระเชตุพนฯ ซึ่งในรัชกาลที่ 1 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท เชิญมาจากเมืองเหนือถึง 1200 องค์
- พระวิหาร เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนลักษณะแบบศิลปะจีนเหมือนพระอุโบสถหน้าบันประดับลายปูนปั้น พระประธานในพระวิหารเป็นพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย
- พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ หลังคามุงกระเบื้องประดิษฐาน พระพุทธไสยาสน์ 1 องค์ พระนามว่า “พระพุทธ
บัณฑูรมูลประดิษฐสถิตไสยาสน์” ยาว ๑๒.๙๐ ม. พระครูวินัยสังวร (มูล) เจ้าอาวาสรูปแรกเป็นผู้สร้าง ในสมัยที่กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ (พระองค์เจ้าฉัตร) ทรงย้ายเขตพุทธาวาสมาเป็นที่ตั้งปัจจุบั
- พระปรางค์ เป็นพระปรางค์ฐานแปดเหลี่ยม 2 ชั้น ย่อมุมไม้สิบสองวัดผ่าศูนย์กลาง 13.00 ม. ทรงสูง สูงประมาณ 20
เมตร ชั้นบนทำเป็นซุ้มจระนำ บรรจุพระพุทธรูป 4 ด้าน ประดิษฐานอยู่ด้านหลัง ระหว่างพระอุโบสถและพระวิหารต่อกัน สร้างขึ้นในสมัยสร้างวัดพร้อมพระอุโบสถและพระวิหารตามผังที่นิยมสร้างในสมัยต้นรัตนโกสินทร์
- พระศรีอริยเมตไตรย 1 องค์ หน้าตักกว้าง 2 ศอก คุณโยมผู้ชายสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) สร้างถวายไว้
- รูปหล่อเหมือนบูรพาจารย์ ๓ องค์
๑. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร)
๒. พระศาสนุเทศาจารย์ (บุญ ปริปุณฺณสีโล) อดีตเจ้าอาวาสฯ
๓. พระธรรมญาณมุนี (บุญนาค ชินวํโส ป.ธ.๙) อดีตเจ้าอาวาสฯ
อ้างอิงจาก
- พระอารามหลวง. คณะผู้จัดทำ พิสิฐ เจริญสุข ... [และคนอื่นๆ] กรุงเทพฯ : กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม, 2551.
- 80 พระอารามหลวงกรุงเทพมหานคร. บรรณาธิการ สุนทรียา ศรีวรขันธ์. กรุงเทพฯ : ฐานการพิมพ์, 2550.
Watthai. วัดเศวตฉัตรราชวรมหาวิหาร. อ้างอิงจาก https://sites.google.com/site/allthaitemple/wad-sewtchatr-rach-wrmhawihar สืบค้นเมื่อ 2 กันยายน 2559